Categories
ข่าวเด่น

สตูล-บังแมนหนุ่มสตูลคะนองรีวิวยิงปืนริมถนนสาธารณะ  คนใช้ถนนหนีกันจ้าละหวั่นสุดท้ายไม่รอด 

สตูล-บังแมนหนุ่มสตูลคะนองรีวิวยิงปืนริมถนนสาธารณะ  คนใช้ถนนหนีกันจ้าละหวั่นสุดท้ายไม่รอด 

          วันที่ 28 มิ.ย.2566  สืบจากสื่อโซเซียลเมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊ค  Bangman  salamander   ได้อัดคลิปรีวิวโชว์โดยใช้แคปชั่นว่า  “ทดสอบ  ลูกซองสั้นเบอร์12  ก่อนทำการทดสอบปลอดภัยครับผู้ดูแลชุมชนและหน่วยงานราชการ”  พร้อมปักหมุดรู้สึกปลอดภัยที่บ้านกาลูบี  ตำบลบ้านควน  อำเภอเมืองสตูล  ไว้อย่างเรียบร้อย  

          จากนั้นเจ้าตัวผู้รีวิวได้นำเป้าไปวางไว้บนกิ่งไม้ริมถนน    จากนั้นได้นำปืนถือไปมาบนถนนสาธารณะ   จากนั้นได้โบกรถจักรยานยนต์ที่แล่นผ่านไปมาให้หมดจากเส้นทางที่จะทำการทดสอบ  จากนั้นได้ยืนบนถนนในหมู่บ้านและสาธิตการยิงไปที่เป้านิ่งจำนวน 1 นัด และบอกกับคลิปที่อัดไว้ว่าได้ยิงสำเร็จแล้วก่อนที่จะยุติการถ่ายทำและโพสต์ลงในเฟสบุ๊กส่วนตัวชื่อ  Bangman salamander  โดยมีคนเข้ามาชมและกดไลก์ร่วม 1 หมื่นคนแชร์ 519 คน   และมีคนจำนวนมากเข้ามาแซวว่า  เกมส์หรือยัง,โดนจับหรือยัง,ปืนมีทะเบียนไหม, ตำรวจอยู่ไหน,ตำรวจดูแลพี่หลวงหน่อยครับ 

         เมื่อตรวจสอบดูในเฟสบุคพบว่าเมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมาได้มีการทดสอบปืนยาว และโพสต์ขอบคุณเพื่อนทุกคนที่อยู่ช่วยในยามขัดสน  ขอบคุณยอดขายปังๆ สำหรับวันนี้ยอดเงินทั้งหมด5000฿ พร้อมภาพธนบัตรและยาเม็ดเขียวเหลืองและยาแก้ไอ   ก่อนจะมาเกมกับการโพสต์คลิปเมื่อวานนี้ที่โชว์การยิงปืนรีวิวกลางถนน  และโพสต์ภาพถือปืนยาว และเมื่อ 4 ชม.ที่ผ่านมายังโพสต์ ขอบคุณทุกคอมเม้นที่เป็นห่วง และวาจาไม่สุภาพผมให้อภัยครับ คราวหน้าจะลองยิงขีปนาวุธข้ามทวีป #ขอบคุณที่ติดตามชมครับ fc Bangman 😎

          หลังโพสต์คลิปไม่นานเวลา 17.20 น.  พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ ปรากฎชื่อ ผกก.สภ.เมืองสตูล  พ.ต.ท.สินชัย พาบับพา รอง ผกก.สส.ฯ  สั่งการให้ พ.ต.ท.เฉลิมรัฐ แก้วเนียม  สว.สส.ฯ ร.ต.อ.ฮาซัน แหละหมัน  รอง สว.สส.ฯ ร.ต.อ.รัฐศักดิ์ จีนหวั่นรอง สว.สส.ฯ พร้อมชุดสืบสวน ร่วมกับ ตชด.436   นำหมายค้นศาลจังหวัดสตูลที่ ค.164/2566 ลงวันที่ 28 มิ.ย. 66  เข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 151 ม.3 ต.บ้านควน อ.เมือง จ.สตูล จากการตรวจค้น พบตัวนายสุไลมาน  (ขอสงวนนามสกุล)   อายุ 27 ปี บุคคลตามคลิปที่ได้รับแจ้งรีวิวอาวุธปืน ตามที่ปรากฎคลิปในสื่อโซเชียล พร้อมอาวุธปืน จำนวน 2 กระบอก

 

1.อาวุธปืนเล็กยาว ขนาด  .22 มม. จำนวน 1 กระบอก

2.อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอกพร้อมลูกกระสุน จำนวน 1 นัด

        นายสุไลมาน   (ขอสงวนนามสกุล)  หลังถูกควบคุมตัวยอมรับทำผิดจริง ที่ทำไปเพราะคึกคะนองไม่คาดคิดว่าจะได้รับความสนใจมีคนแชร์คลิปมากขนาดนี้  เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยอัดคลิปเกี่ยวกับปืนที่ตนมี  แต่ก็ไม่เห็นจะได้รับความสนใจ   พร้อมยอมรับว่าปืนที่ใช้เป็นปืนไทยประดิษฐ์แบบหักคอของตนเอง    มีกระสุนจำนวน 4 นัด และตั้งใจจะยิงโชว์เพียง 2 นัด  ไม่ได้มีไว้เพื่อทำร้ายใคร และมีไว้ป้องกันสัตว์ไม่ให้เข้ามากัดกินแพะและวัวของตนที่เลี้ยงไว้จำนวนมาก  

 

โดยตำรวจได้ควบคุมตัวดำเนินคดีในข้อหา  มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

………………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สู้วิกฤต..สตูลร้านข้าวห่อไข่ไก่กะเพรา  ปรับกลยุทธ์ขายสวนกระแสอัดโปรตีนจุกๆเพิ่มไข่ 2 ฟองราคามิตรภาพหวังเรียกลูกค้าในยุค ไข่แพง

สู้วิกฤต..สตูลร้านข้าวห่อไข่ไก่กะเพรา  ปรับกลยุทธ์ขายสวนกระแสอัดโปรตีนจุกๆเพิ่มไข่ 2 ฟองราคามิตรภาพหวังเรียกลูกค้าในยุค ไข่แพง

         ในยุคที่ข้าวยาก  หมากแพง  พ่อค้าแม่ค้าก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์  ทั้งกลยุทธ์ที่จะมัดใจลูกค้าทั้งราคาและความอิ่มอร่อย  เหมือนอย่างร้าน “ผัดไท-ห่อไข่”  ตรงสามแยกไฟแดง  เขตเทศบาลตำบลควนโดน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล ซึ่งเป็นร้านของ นางสาวขวัญใจ   ทับโทน   อายุ 47 ปี  หรือที่รู้จักในนาม  ก๊ะน๊ะ

         ร้านนี้บอกว่า  ราคาไข่ไก่ที่แพงขึ้น   ใช่ว่าแม่ค้าจะไม่ได้รับผลกระทบ  แต่ลูกค้าที่เป็นหัวใจหลักของเราก็ได้รับผลกระทบจากราคาที่เพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน  จึงมาคิดว่าจะทำอย่างไรให้ลูกค้าอยู่ได้  ร้านก็ต้องอยู่ได้ด้วย  จึงคิดเมนูเพื่อช่วยเหลือกันในยามนี้

          ด้วยการขายข้าวห่อไข่  ทุกเมนู  ไม่ว่าจะเป็นเมนูเหมาะสำหรับเด็ก ๆ ที่ไม่ทานเผ็ด  ได้ทานอิ่มมีประโยชน์จากโปรตีนไข่ แบบจุก ๆ ไปเลย 2 ฟอง พร้อมห่อด้วยสาหร่าย และไก่ผัดเครื่องราดซอส มายองเนสห่อไข่  จานนี้เพียง 40 บาททุกเมนู  นอกจากนี้ยังมีเมนู  ข้าวห่อไข่ผัดกะเพราไก่  และ  ข้าวห่อไข่เครื่องแกงไก่

        แม้จะขายสวนกระแสราคาไข่ไก่ที่ขยับตัวแพงขึ้น  แต่ทางร้านบอกว่า  อยากให้ลูกค้าอยู่ได้  ได้ทานแม้กำไรจะเล็กน้อย เพราะในยามเศรษฐกิจแบบนี้ลูกค้าต้องแบกรับภาระอะไรอีกหลายอย่าง  เชื่อว่าคนที่มาทานเยอะขึ้นจะทำให้ทางร้านอยู่ต่อไปได้

อัพเดทล่าสุด

        นางสาวขวัญใจ   หรือ ก๊ะน๊ะ  ยังบอกอีกว่า  ทางร้านต้องปรับกลยุทธขายของไปเรื่อย ๆเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน  แม้วันนี้จะขายยากก็ตาม เพราะข้าวของเพิ่มราคา  วันนี้ราคาไข่ไก่อยู่ที่ฟองละ 5 บาทกว่า   ทำให้มีรายได้ไม่หักค่าใช้จ่ายเพียงวันละ 1,000 บาท  สำหรับท่านที่สนใจเมนูข้าวห่อไข่เมนูต่างๆ ของทางนี้ก็ยังมีผัดไทห่อไข่  และผัดไทกุ้งสดด้วย  สามารถโทรติดต่อสอบถามได้ที่  063  602 8023

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สาวสตูลตามฝันเปิดร้านอาหารวัฒนธรรม โรตีโอ่ง ชาปากี และเมนูคนรุ่นใหม่

สาวสตูลตามฝันเปิดร้านอาหารวัฒนธรรม โรตีโอ่ง ชาปากี และเมนูคนรุ่นใหม่

        เดินตามฝันและความถนัดของตัวเอง  สาวสตูลวัย 20 ที่ค้นพบอาชีพที่เชื่อว่า   นี่คือความสุขและจะสร้างรายได้ให้กับตนโดยมีคุณพ่อคอยซัพพอร์ต  กับร้านอาหารวัฒนธรรมพื้นเมือง อย่างโรตีโอ่งชาปากี และจิ้มจุ๋ม – ย่างเนยฮาลาลเมนูตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

         นางสาวญูนีย์   หลีเส็น  เจ้าของร้าน Junee Halal Street Foods  อายุ 20 ปี  ซึ่งร้านตั้งอยู่ย่านถนนสตรีทฟู้ด  สายฉลุง – ละงู   ตำบลฉลุง   อำเภอเมือง  จังหวัดสตูล ที่นี่จำหน่าย  อาหารฮาลาล ที่ขี้นชื่อ  และอีกหลากหลายเมนูมากมายให้ลูกค้าได้เลือกสรร  โดยเจ้าของร้านก็จะลงมือทำเองอย่างพิถีพิถันจะมีลูกมือคอยช่วย แต่น้องญูนีย์ เจ้าของร้านบอกว่า  อยากใส่ใจทุกรายละเอียดก่อนเสิร์ฟสิ่งดี ๆให้กับลูกค้า

         โดยเฉพาะเมนูวัฒนธรรมของคนพื้นถิ่นดินแดนมลายูที่ชอบทานโรตี  อย่างโรตีโอ่ง หรือโรตีนาน  ที่จะมีทานเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญ  มาวันนี้ทางร้านนำมาให้ทานได้ทุกวัน  กับน้ำแกงเนื้อและแกงไก่ เพียงชุดละ  50 บาทเท่านั้น  ทานคู่กับชาปากีร้อน ๆ ที่มีการปรุงตามแบบฉบับสูตรดั้งเดิม นอกจากนี้ยังมีเมนูยอดฮิต  ที่ทางร้านขายจิ้มจุ๋ม และย่างเนย ก๋วยเตี๋ยวต้มยำหม้อไฟทะเล  แบบล้นทะลักเนื้อแน่นๆ ขายเพียงชุดละ 199 ถึง 259 บาท ทานได้ 2-4 คนแบบสบายๆ

อัพเดทล่าสุด

         ด้วยน้องญูนีย์   เจ้าของร้านฯ ที่ได้คลุกคลีอยู่กับคุณพ่อมาตลอด   เห็นการบริหารร้านอาหารหลากหลายสาขา  พบเห็นปัญหาอุปสรรคในการบริหารร้าน และการใส่ใจดูแลลูกค้า  มาวันนี้น้องอยากจะมีร้านเป็นของตัวเอง  กับเมนูที่ถนัดและชื่นชอบที่จะทำ  โดยมีคุณพ่อคอยซัพพอร์ตห่าง ๆ  ยิ่งสร้างมั่นใจให้กับน้องญูนีย์  ที่จะบริหารร้านให้เติบโตยิ่งขึ้นไป  

       สำหรับร้านนี้เปิด 10.00 -22.00 น. หยุดทุกวันพฤหัสบดี จองโต๊ะได้ที่หมายเลข 066-102 2606 หรือ 062-941  9474 สั่งจองผ่านเพจ Junee Halal Street Foods    

………………………………………….

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 หนุ่มวิศวะเครื่องกล หันทำกับข้าว อาหารทะเลขาย แกงส้มไข่ปลาลิวกิ้ว ขายดีลูกค้าชอบ

สตูล-หนุ่มวิศวะเครื่องกล หันทำกับข้าว อาหารทะเลขาย แกงส้มไข่ปลาลิวกิ้ว ขายดีลูกค้าชอบ

       วันนี้จะไปหาอาหารทะเลอร่อยๆได้ที่ชายหาดปากบารา ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล  ที่มีวิวชายทะเลตกยามเย็น นั่นคือร้าน บ้านแบบโรล ซีฟู้ด เป็นร้านของน้องอาร์ต  หรือนายสุรชัย ทองแหยม  อายุ 39 ปี และแฟนสาว นางสาว นิศากร พร้อมเพียง อายุ 39 ปี ที่หันมาประกอบอาชีพทำร้านอาหาร แถมมีฝีมือรสชาติเด็ด ลูกค้าสั่งกลับบ้าน และมาทานที่ร้านกัน โดยเฉพาะเมนูอาหารทะเลสดๆใหม่ๆทุกวัน     

       ด้านนางสาว นิศากร พร้อมเพียง  อายุ 39 ปี   แฟนสาว  เจ้าของร้านอาหาร กล่าวว่า ร้านนี้เปิดตั้งแต่ 10 โมงจนถึง1 ทุ่ม ครึ่ง  ส่วนวัตถุดิบนั้นมาจากท้องทะเล ทะลเบ้านเรา   หากต้องการมาชิมร้านอาหาร บ้านแบบโรล ซีฟู้ด  โทร  0858964298  และรับทำอาหารกล่อง อีกด้วย

          คุณอาร์ต  หรือนายสุรชัย ทองแหยม  อายุ 39 ปี พ่อครัว ได้โชว์ทำเมนูแกงส้ม แกงส้มไข่ปลาลิ้วกิ้ว ( ไข่ปลาล้วน )  ใส่ผัก และขายชามละ  300  บาท หากใส่เนื้อปลาผสมอยู่ราคา 400 บาท  นอกจากนี้ยังมีเมนูราคาทานแบบครอบครัวอิ่มมี กั้งไข่ต้ม จานละ 500  บาท หมึกไข่จานละ 250  บาท และ ส้มตำกุ้งสดจานละ  150  บาท ไข่เจียวกุ้งจานละ 80 บาทและ น้ำพริกกุ้งสดพร้อมผักต้มชุดละ 120 บาท

อัพเดทล่าสุด

        และวันนี้นี้โชว์เมนูที่ยอดฮิตทางร้านคือแกงส้มไข่ปลาลิวกิ้ว ตั้งหมอไฟร้อนๆต้มให้เดือดในเครื่องแกงแส้มทำเอง ตำเองกับมือ ใส่ ปรุงรมชาตใส่น้ำมะข้ามเปียก จากนั้นไข่ปลาลิวกิ้ว เอาไปล้างน้ำเกลือ ต้มน้ำร้อนใส่สมุนไพรกันคาว เทในหมอแกงส้ม ยกขึ้นทันที  และหากชอบเนื้อปลาใส่เนื้อปลาหนาม ปลาริวกิว  ลงไป ยกเสริฟทานอย่างอร่อย

Categories
ข่าวเด่น

 ป.ป.ช.สตูล  ลุยตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยวฯ

สตูล-ป.ป.ช.สตูล  ลุยตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยวฯ

      จากกรณีมีการนำเสนอข่าวปัญหา  ก่อสร้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยว วงเงิน 29 ล้าน 6 ปี ยังไม่เสร็จ โดยเมื่อปี 59  อบจ.สตูล ได้ว่าจ้างก่อสร้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยวในเขตพื้นที่อำเภอควนโดน พิกัดริมถนนทางหลวงหมายเลข 406 ใกล้ตลาดนัดดุสน วงเงิน 29,798,000 บาท จัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ ทำสัญญากับห้างเกียรติเจริญชัยการโยธา กำหนดแล้วเสร็จ 22 ธ.ค. 60 แต่โครงการมีความล่าช้าเป็นอย่างมาก จนถึงปี 61 ก็ยังดำเนินการไม่เสร็จ จากนั้นก็มีโครงการเพิ่มขึ้นมา เป็นการทำถนนคอนกรีตและลานจอดรถ กำแพงกันดิน กับปรับปรุงภูมิทัศน์  รอบนี้ใช้วิธีการคัดเลือก  และได้ว่าจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งหนึ่ง เข้าดำเนินการในวงเงิน 12,990,000 บาท  

         วันที่ 22 มิ.ย.2566  เวลา  13.30 น. นายธนกฤต  เลิศวิริยวรางกูร ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสตูล  พร้อมเจ้าหน้าที่ ปปช. ประจำจังหวัดสตูล  ได้เดินทางไปยังสถานที่จริง ในพื้นที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวในเขตพื้นที่อำเภอควนโดน  จ.สตูล  หลังตกเป็นข่าว โดยมีเจ้าหน้าที่จาก อบจ.สตูล และนายสัมฤทธิ์  เลียงประสิทธิ์ นายก อบจ.สตูล คอยให้รายละเอียดโครงการ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวฯ

           พร้อมกันนี้ นายธนกฤต เลิศวิริยวรางกูร ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสตูล  พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสตูล ได้ตรวจสอบยังตัวอาคาร และพบว่าหลายๆ อย่างยังทำไม่เสร็จ เช่น พื้นกระเบื้องที่ปูไว้ บางจุดมีสั่นสะเทือน แตกร้าว และพบห้องน้ำรวมภายในตัวอาคาร ทำสร้างไม่แล้วเสร็จ บานประตูบางบานเริ่มผุพังมีคราบตะไคร่เกาะ  และพบคนงานกำลังเดินสายไฟฟ้าอยู่เพียงไม่กี่คน สภาพทั่วไปพบไม่มีการก่อสร้างจุดใดเพิ่มเติมแต่อย่างใด

          นายธนกฤต  เลิศวิริยวรางกูร  ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสตูล  กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ลงพื้นที่มาดูหลังโครงการดังกล่าวนี้ตกเป็นข่าว และก็พบว่าหลายๆ จุดยังทำไม่เสร็จจริงจึงได้เข้าพูดคุยและรับฟัง จากทางนายกอบจ.สตูล  ซึ่งนายกฯ เองก็ยอมรับปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น  ส่วนเรื่องเอกสารชี้แจงทางเราเพียงแค่รับฟังจากทาง อบจ.สตูล ดังนั้น เราจึงขอให้ทางอบจ.สตูลส่งเอกสารโครงการตัวนี้อย่างละเอียดมาอีกครั้ง

          ส่วนที่จะเข้าข่ายว่าโครงการนี้ทุจริตหรือไม่ ขอตรวจสอบก่อน ยังบอกไม่ได้  ต้องดูเรื่องข้อกฎหมาย ขอรับฟังการชี้แจงเบื้องต้นก่อน  และขอฝากถึงหน่วยงานใดก็ตาม  ที่มีงานก่อสร้างและยังสร้างไม่เสร็จ  ควรแจ้งเรื่องให้ ป.ป.ช.สตูลรับทราบ อย่าปล่อยทิ้งไว้แบบนี้ ส่วนอาคารนี้ เข้ากระบวนตรวจสอบอย่างละเอียดในด้านเอกสาร จะแจ้งทางสื่ออีกครั้ง

………………………………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

ตม.สตูล ร่วมกับ กก.6 บก.ป. ชป.สตูล จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ  กรณี ฉ้อโกง, นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จลงในระบบคอมพิวเตอร์ฯ 

สตูล-ตม.สตูล ร่วมกับ กก.6 บก.ป. ชป.สตูล จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ  กรณี ฉ้อโกง, นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จลงในระบบคอมพิวเตอร์ฯ  อุทาหรณ์เตือนประชาชน อย่าได้เปิดบัญชีธนาคารให้บุคคลอื่นนำไปใช้ อาจมีโทษตามกฎหมาย

         วันที่ 22 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ตามนโยบายของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์  สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. สั่งการให้หน่วยงานสืบสวนปราบปราม ของตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศทุกจังหวัด ดำเนินการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่รับผิดชอบ ดังนั้น พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.ตม.6 จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ธนิสร แสงท่านั่ง ผกก.ตม.จว.สตูล ดำเนินการ

        โดยวันนี้ พ.ต.อ.ธนิสร แสงท่านั่ง ผกก.ตม.จว.สตูล สั่งการให้ พ.ต.ท.วิชาญ นามแสงผา สว.ตม.จว.สตูล พร้อมชุดสืบสวน ตม.จว.สตูล บูรณาการกำลังร่วมกับ ชุดปฏิบัติการจังหวัดสตูล ของกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม โดย ร.ต.อ.อภินัน ใจห้าว รอง สว.กก.6 บก.ป.ชป.สตูล ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.ซี (นามสมมุติ) บุคคลตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 1170/2566 ลง 3 เม.ย. 2566 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” และหมายจับของศาลจังหวัดนครสวรรค์ ที่ 217/2655 ลง 7 มิ.ย.2566 ในความผิดฐาน “นำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน,ร่วมกันฉ้อโกง” เกิดเหตุ บริเวณ ม.4 ต.คลองขุด อ.เมือง  จ.สตูล ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

         พ.ต.อ.ธนิสร แสงท่านั่ง ผกก.ตม.จว.สตูล กล่าวว่า กรณีดังกล่าวผู้ต้องหาได้ให้การเบื้องต้นว่า เมื่อปี 2566 ได้เข้าเฟซบุ๊กและมีเพจที่เกี่ยวกับการหารายได้เสริม ทักเข้ามาแจ้งว่าหากสนใจให้ทักแชตเข้าไป ผู้ต้องหาจึงได้ทักแชตไป และมีการสนทนากันทางแชต จนทำให้ผู้ต้องหาหลงเชื่อและได้เปิดบัญชีให้ โดยในการเปิดบัญชีจะใช้หมายเลขโทรศัพท์มิจฉาชีพ และให้ตนดำเนินการตามขึ้นตอน  จากนั้นเมื่อระบบขึ้นรหัส OTP จะส่งไปยังมิจฉาชีพดังกล่าว ทำให้ธุรกรรมนั้นสำเร็จ  ตนเองได้ค่าเปิดบัญชี 300 บาท จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย ซึ่งต่อมาได้มีหมายเรียกของ สน.พหลโยธิน และ สภ.เมืองนครสวรรค์ แต่ไม่ได้ไปตามหมายเรียกจนมาถูกออกหมายจับและถูกจับกุมดังกล่าว  จึงได้รู้ว่าตนถูกหลอกให้เปิดบัญชี  จึงอยากให้ เป็นอุทาหรณ์ให้พี่น้องประชาชนใช้ความระมัดระวัง  อย่าได้ไปหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพที่จะให้ท่านเปิดบัญชีธนาคารแล้วให้คนอื่นนำไปใช้  ซึ่งหากคนร้ายนำบัญชีนั้นไปใช้ในทางทุจริต  ท่านอาจจะมีโทษตามกฎหมาย  ซึ่งปัจจุบันการหลอกลวง ฉ้อโกงทางเทคโนโลยีเกิดขึ้นมาก หลายรูปแบบตามที่ได้เป็นข่าว เพื่อเป็นการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี  จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนใช้ความระมัดระวังในการทำธุรกรรมออนไลน์      

……………………………………..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

ตม.สตูล ตรวจค้นเกาะหลีเป๊ะ รวบชายชาวอเมริกัน  ลักลอบอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด Overstay 81 วัน

ตม.สตูล ตรวจค้นเกาะหลีเป๊ะ รวบชายชาวอเมริกัน  ลักลอบอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด Overstay 81 วัน

           วันที่  21  มิถุนายน 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ตามนโยบายของ พล...ภาคภูมิภิภัทฒ์  สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล...พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. สั่งการให้หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ  ทำการระดมกวาดล้างบุคคลต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต (OVERSTAY) ในระหว่างวันที่ 7 – 21 มิ..2566 ดังนั้นพล...ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.ตม.6, ...ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.ตม.6 สั่งการให้...ธนิสร แสงท่านั่ง ผกก.ตม.จว.สตูล  ดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายที่คาดว่าจะมีคนต่างชาติลักลอบอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย

             เมื่อวันที่ 20 มิ..2566  ...ธนิสร แสงท่านั่ง ผกก.ตม.จว.สตูล ได้สั่งการให้ ...ระลึก อินทรัศมี      นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตม.จว.สตูล ปิดล้อมตรวจค้นบริเวณแห่งที่พัก ห้องเช่าที่พักของคนต่างชาติบนเกาะหลีเป๊ะ .เมือง .สตูล  ซึ่งทางการข่าวเชื่อว่าจะมีคนต่างด้าวอยู่ผิดกฎหมาย พบนายเอเม็ด (สงวนนามสกุล) สัญชาติ อเมริกัน ซึ่งได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร 45 วัน ต่อมาได้เดินทางไปยื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักรได้รับอนุญาตอีก 30 วัน จนถึงวันที่ 31 มี..2566 หลังจากนั้นได้อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดลง เป็นเวลา 81 วัน โดยรับสารภาพว่าได้ลักลอบอยู่ในประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต  เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะหลีเป๊ะ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

          ...ธนิสร แสงท่านั่ง ผกก.ตม.จว.สตูล กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อคนต่างชาติได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักร  เมื่อครบกำหนดระยะเวลาที่อนุญาตแล้ว  คนต่างชาติจะต้องเดินทางออกนอกราชอาณาจักรหรือหากประสงค์ที่จะอยู่ต่อในราชอาณาจักร  จะต้องมายื่นขออนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักรต่อพนักงานเจ้าหน้าที่  มิฉะนั้นหากเจ้าหน้าที่ตรวจพบจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมีโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ  และจะถูกบันทึกชื่อเป็นบุคคลต้องห้ามเข้าราชอาณาจักร (Black List) ตามระยะเวลที่กำหนด ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่คนชาติชาติอยู่เกินกำหนดอนุญาต

           จึงขอแนะนำคนต่างชาติปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายคนเข้าเมือง  หรือมีข้อสงสัยประการใด สามารถสอบถามได้ หรือติดต่อที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสตูล หมายเลขโทรศัพท์ 0 7471 1080 อีเมล์satun.imm@royalthaipolice.go.th 

————————————

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สตูลปอเปี๊ยะจิ๋ว  อาหารสองแผ่นดินนานกว่า 10 ปี

สตูล-ปอเปี๊ยะจิ๋ว  อาหารสองแผ่นดินนานกว่า 10 ปี

        หมู่บ้านชุมชนที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีวัตถุดิบจากท้องทะเลมากอีกหนึ่งแห่งในจังหวัดสตูล  ต้องที่ชุมชนนี้เลย   ที่ชุมชนตำบลเจ๊ะบิลัง   อำเภอเมืองสตูล ที่นี่มีอาหารทะเลสดใหม่ทุกวันแล้วยังมีการแปรรูปมาเป็นอาหารคาวหวานด้วย 

       โดยที่ (บ้านขนมผูกรัก-ปอเปี๊ยะจิ๋ว)   ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่ที่ 2 เขตเทศบาลตำบลเจ๊ะบิลัง  ภายใต้กลุ่มส่งเสริมอาชีพสตรีเจ๊ะบิลังที่มีการรวมตัวกันมานาน 10 ปี เริ่มแรกจากการทำขนมผูกรัก  และพัฒนามาเป็นปอเปี๊ยะจิ๋ว  ไส้ปลา,กุ้งและล่าสุดไส้ถั่ว (ขายกลุ่มทานเจ หรือมังสิวิรัต  กับสมาชิก 14 คนส่วนใหญ่เป็นสตรีในหมู่บ้านหลังเสร็จงานหลักในครอบครัวบ้างทำสวน ค้าขาย ก็มาช่วยกันทำขนมงานรองอยู่ภายในหมู่บ้าน ทำอยู่อย่างนี้กันอย่างมีความสุข

 

        สำหรับวัตถุดิบหลักของปอเปี๊ยะจิ๋ว  มีเนื้อปลา 80% แป้ง 14 %สมุนไพร 2% (สำหรับเครื่องสมุนไพรประกอบด้วย พริกแห้ง , ใบมะกรูด , หอมแดง , ขิง , ข่า , ตะไคร้)  ผัดคลุกเคล้ากันใช้เวลาทำไส้เลย 1 วันเต็ม จากนั้นมานั่งห่อกันและทอดซับน้ำมันจนแห้ง ก่อนนำมาเพ็คใส่บรรจุภัณฑ์  ขายออกบูธครั้งละ 1,000 กล่อง หากซื้อราคาส่งกิโลกรัมละ  300  บาท หรือ กระปุก 100 บาท ส่วนขนมผูกรักครึ่งกิโล 110 บาท กิโลกรัมละ 220 บาท

        สมาชิกมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนละ 3,000 บาทถึง5,000 บาท และช่วงไหนมีออเดอร์ชุก ๆ เคยแตะที่หลักหมื่นบาทต่อคน สนใจติดต่อดูงาน หรือสั่งสินค้าได้ที่เบอร์โทร 083-183-3044 ทางกลุ่มยังมีเครื่องหมายฮาลาล และมผช.ด้วย

อัพเดทล่าสุด

      นางชไมพร   หมันสง่า   ประธานและผู้ก่อตั้งบ้านขนมผูกรัก-ปอเปี๊ยะจิ๋ว  บอกว่า  สำหรับขนมผูกรัก หรือ ปอเปี๊ยะจิ๋ว เป็นอาหารวัฒนธรรมที่มีการแลกเปลี่ยนกันกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย และมีปรับรูปลักษณ์ให้มาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นและไส้ที่เยอะขึ้น  ส่วนใหญ่ลูกค้าทั่วไปและจากมาเลเซียเพื่อนบ้านเป็นอาหารทานเล่น เพลินอร่อยมีประโยชน์  

………………………..

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

สตูล-ออกแล้ว! ผลไม้อัตลักษณ์พื้นถิ่น  กระท้อนนาปริกใหญ่ยักษ์ 80 ตัน จากดินแดนประวัติศาสตร์โบราณ  ประตูสู่อุทยานธรณีโลก พร้อมผลักดันเป็นพืช GI ต่อจากจำปาดะ 

สตูล-ออกแล้ว! ผลไม้อัตลักษณ์พื้นถิ่น  กระท้อนนาปริกใหญ่ยักษ์ 80 ตัน จากดินแดนประวัติศาสตร์โบราณ  ประตูสู่อุทยานธรณีโลก พร้อมผลักดันเป็นพืช GI ต่อจากจำปาดะ

         (วันที่ 20 มิ.. 2566)  ที่บ้านนาปริก  ตำบลควนโดน   อำเภอควนโดน  จังหวัดสตูล ดินแดนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่ง “กระท้อนนาปริกสตูล” ที่มีผลใหญ่  เนื้อหนา นุ่มฟู รสชาติหวานอร่อยเฉพาะตัว  บนดินแดนประวัติศาสตร์โบราณ และประตูสู่อุทยานธรณีโลก  นับเป็นผลไม้อัตลักษณ์พื้นถิ่นที่ขึ้นชื่อในขณะนี้ที่กำลังให้ผลผลิตระหว่างเดือน มิ.ย. – ส.ค.2566 โดยราคาปีนี้ยังอยู่ที่กิโลกรัมละ 60-70 บาทหน้าสวนเริ่มทยอยออกผลผลิตมาให้ทานกันแล้ว

         โดยนายชูชีพ  ธรรมเพชร  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมนายชาญณรงค์   วิรุณสาร   เกษตรจังหวัดสตูล ฝ่ายปกครองของอำเภอควนโดน เกษตรอำเภอควนโดน และนายอิบรอเหม เด็นสำดี   เกษตรกรเจ้าของสวนกระท้อนบ้านนาปริก และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์และวิถีเกษตรชุมชนเขาโต๊ะกรัง  นำชมผลผลิตและสวนกระท้อนที่กำลังออกสู่ตลาด   จากสวนต้นแบบคุณภาพแห่งนี้  ซึ่งในแต่ละปีในอำเภอควนโดนให้ผลผลิตไม่น้อยกว่า 66 ตันจาก 46 ไร่ อำเภอควนกาหลง  7 ตัน 7 ไร่และทั้งจังหวัดผลผลิตจากกระท้อนมากถึง 80 ตันจากพื้นที่ 60 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่ปลูกแบบผสมผสาน

          ด้วยความพิเศษของกระท้อนที่นี่มีผลใหญ่กว่าฝ่ามือ  มีผลที่เคยใหญ่สุดเกือบลูกละ 2 กิโลกรัมโดยพันธุ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ พันธุ์อีล่า  ด้วยผลใหญ่ยักษ์ เปลือกบาง  ใช้ช้อนตักกินแบบสบาย ๆ เนื้อปุยนิ่ม อร่อยกำลังดี อร่อยจนโด่งดังและมีชื่อเสียงแพร่หลาย   นอกจากนี้ยังมีพันธุ์ปุยฝาย  พันธุ์นิ่มนวล  พันธุ์เขียวหวาน และพันธุ์ทับทิม

         ขณะที่ทางกรมส่งเสริมการเกษตร สำนักงานเกษตรจังหวัดสตูล   ได้มีการเพิ่มมูลค่าสินค้ากระท้อนด้วยการส่งเสริมการแปรรูปเพิ่มมูลค่าให้มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและมีคุณภาพ   การพัฒนาบรรจุภัณฑ์   เพื่อสร้างแบรนด์ให้กระท้อนสตูลอีกทั้งการพัฒนาศักยภาพในการบริหารจัดการกลุ่มองค์กรเกษตร  ผู้ผลิตเกิดการเชื่อมโยงการตลาดได้   กรมส่งเสริมการเกษตรโดยสำนักงานเกษตรจังหวัดสตูลได้เข้ามาส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น   ส่งเสริมและพัฒนาสินค้ากระท้อนในพื้นที่ 7 อำเภอบนพื้นที่ผลิต 60 ไร่ จังหวัดสตูลเป็นที่รู้จักและเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค

         จากลักษณะเด่นผลใหญ่เนื้อหนานุ่มฟู  รสชาติหวาน  สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรได้เป็นอย่างดีและมีการขยายผลไปสู่การเชื่อมโยงท่องเที่ยวชุมชน  ตามคำขวัญ  “แหล่งกระท้อน  นุ่มหวานดินแดนประวัติศาสตร์โบราณ  ประตูอุทยานธรณี” 

อัพเดทล่าสุด

        นายชาญณรงค์   วิรุณสาร   เกษตรจังหวัดสตูล  กล่าวว่า  กรมส่งเสริมการเกษตร   สำนักงานเกษตรจังหวัดสตูล   ยังได้ส่งเสริมและพัฒนานำสินค้ากระท้อนในพื้นที่ 7 อำเภอพื้นที่ผลิต 60 ไร่โดยสร้างกิจกรรมอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตสินค้าผลไม้อัตลักษณ์พื้นถิ่น  โดยมีเกษตรกรเป้าหมาย 50 ราย , การทำแปลงเรียนรู้การผลิตผลไม้อัตลักษณ์ที่ได้มาตรฐานจำนวน 1 แปลง  ,  การพัฒนาสินค้าผลไม้อัตลักษณ์สู่กระบวนการตรวจสอบย้อนกลับ  ,  การพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าผลไม้อัตลักษณ์ 5 พัฒนาจุดรวบรวมและจัดชั้นคุณภาพผลไม้อัตลักษณ์อีกทั้งยังมีแผนขับเคลื่อนส่งเสริมพัฒนาสินค้ากระท้อนคุณภาพที่มีอยู่เดิมและขยายพื้นที่ปลูกใหม่โดยยกระดับสู่มาตรฐานสินค้าเกษตรปลอดภัย GAP ได้รับการรับรองมาตรฐานแล้ว 7 รายพื้นที่ 13 ไร่และอยู่ระหว่างการดำเนินการ 20 รายหรือ 20 แปลงและในปี 2565 หลายหน่วยงานได้มีการบูรณการในจังหวัดสตูลและกลุ่มภาคใต้อันดามัน ส่งเสริมการขึ้นทะเบียนสินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย  โดยคัดเลือกกระท้อนสู่การขึ้นทะเบียน GI  โดยกำหนดขอบเขตพื้นที่ 2 อำเภอ คืออำเภอควนโดน และอำเภอควนกาหลง ต่อจากพืชจำปาดะ                

Categories
ข่าวเด่น

สตูล..อบจ.สตูลโต้เพจ ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน  ผู้รับเหมายังไม่ได้ทิ้งงานเชื่อคนสตูลได้ประโยชน์จากค่าปรับ 

สตูล..อบจ.สตูลโต้เพจ ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน  ผู้รับเหมายังไม่ได้ทิ้งงานเชื่อคนสตูลได้ประโยชน์จากค่าปรับ  ขณะที่ชาวบ้านวอนเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ  สร้างอาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยวจ.สตูล 29ล้าน 6 ปีที่ยังไม่เสร็จ  

         (วันที่ 19 มิ.. 66)  จากกรณีเพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน  โพสต์งบประมาณ  29 ล้าน 6 ปี ยังไม่ก่อสร้างเสร็จ  อบจ.สตูล  ก่อสร้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยวในเขตพื้นที่อำเภอควนโดน พิกัดริมถนนทางหลวงหมายเลข 406 ใกล้ตลาดนัดดุสน วงเงิน 29,798,000 บาท จัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ ทำสัญญากับห้างเกียรติเจริญชัยการโยธา กำหนดแล้วเสร็จ 22 .. 60 แต่โครงการมีความล่าช้าเป็นอย่างมาก จนถึงปี 61 ก็ยังดำเนินการไม่เสร็จ

 

           นางศุภลักษณ์  สตอหลง เจ้าของร้านก๊ะดา  บอกว่า  รู้สึกเสียดายวันเวลา เพราะนานแล้วการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จหากมีการนำงบนี้ไปสร้างที่อื่นก็น่าจะดีกว่า  แต่ก็อยากเห็นการกระตุ้นเศรษกิจจากสิ่งปลูกสร้างนี้ด้วยเหมือนกัน และหวังว่าจะมีการผลักดันให้ก่อสร้างแล้วเสร็จโดยไว  เพื่อพี่น้องชาวควนโดนและจังหวัดสตูลได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากยิ่งขึ้น

       ในเรื่องนี้นายสัมฤทธิ์    เลียงประสิทธิ์  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูลได้ชี้แจงว่า   โครงการก่อสร้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยวสัญญาจ้างเลขที่ 49/2559 ลงวันที่ 28 กันยายน 2559 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 22 ธันวาคม 2560   ผู้รับจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัดเกียรติเจริญชัยการโยธางบประมาณในการก่อสร้าง 29,798,000 บาทงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557  ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูลได้แจ้งเร่งรัดงานก่อสร้างแล้วจำนวน 28 ครั้งขณะนี้อยู่ระหว่างทำการก่อสร้างผลงานอยู่ที่ 78.91% ไม่ได้ทำงานตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565  ค่าปรับณวันที่ 9 มิถุนายน 2566 เป็นเงิน 59,447,010 บาทคิดเป็น 199.50%  (1,995 วัน)

           ขณะที่ โครงการพัฒนาศูนย์บริการนักท่องเที่ยวจังหวัดสตูล สัญญาจ้างเลขที่ 23/2561 ลงวันที่ 3 กันยายน2562 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 ผู้รับจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัดเกียรติเจริญชัยการโยธาด้วยงบประมาณ12,990,000 บาทงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2559 บันทึกข้อตกลงแนบท้ายสัญญาจ้างครั้งที่ 1 วันที่ 15 พฤษภาคม2562 แก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาโดยไม่เพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างเนื่องจากมีการก่อสร้างโครงการประตูสู่อุทยานธรณีสตูลสตูลจีโอปาร์คเกตเวย์ทำให้พื้นที่สำหรับก่อสร้างลานจอดรถลดลง

          ข้อตกลงแนบท้ายสัญญาจ้างครั้งที่ 2 วันที่ 17 มิถุนายน 2562 แก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาโดยไม่เพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างเนื่องจากแนวเขตที่ดินด้านที่อยู่ติดกับทางหลวงแผ่นดินเลขที่ 406 ต้องเว้นระยะครูระบายน้ำสาธารณะและระยะการถมดินมีผลกระทบกับความยาวของถนนทางเข้าขณะนี้งานก่อสร้างได้ดำเนินการแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างซ่อมแซมเพื่อคืนหลักประกันซ่อมคอนกรีตแล้วแต่ยังไม่ได้ตีเส้นจราจร

อัพเดทล่าสุด

          นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูลได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า  ทางอบจ.ยังมองว่าผู้รับเหมายังมีศักยภาพในการรับผิดชอบด้วยการเสียค่าปรับเห็นได้จากยังมีการรับเหมาก่อสร้างในวงเงินหลักพันล้านบาท   พร้อมทั้งไม่ปฏิเสธความเกี่ยวพัน (เป็นพี่น้องกับนายกฯ) โดยยืนยันว่าเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับ    อีกทั้งจุดโครงการก่อสร้างยังคงมีการปฏิบัติงานอยู่ซึ่งเชื่อได้ว่าค่าปรับจากผู้รับเหมาวงเงิน 59 ล้านบาท ขณะนี้ผู้รับเหมายังสามารถแบกรับไว้ได้  พร้อมเห็น     ว่าชาวสตูลอาจจะมองว่าเป็นการเสียโอกาส  แต่อยากให้ประชาชนมองมุมกลับว่ายังอยุ่ในกระบวนการขั้นตอนของระเบียบที่ผู้รับเหมายังสามารถทำได้   อีกทั้งเงินจำนวนค่าปรับสูงกว่าราคารับเหมาก่อสร้าง นั่นหมายถึงว่าคนสตูลได้อาคารหลังนี้มาฟรี   ส่วนจะมีการยืดเยื้อการจ่ายค่าปรับไปถึงไหนนั้น  ในเรื่องนี้อบจ.สตูลเชื่อว่า หลังมีข่าวออกไปทางผู้รับเหมาน่าจะเร่งดำเนินการเพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียง 

……………………………………………